เปิดประตูถล่ม ถือเป็นการเปิดประตูต้อนรับการมาเยือนของเลสเตอร์ซิตีอย่างเป็นทางการสำหรับหงส์แดงลิเวอร์พูล สำหรับทีมนี้แล้วเค้ามีนักเตะบาดเจ็บเป็นจำนวนมากแต่เขาสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างจัดจ้านโดยการเชือด เลสเตอร์ซิตี คาบ้านไปถึง3-0 และเก็บสามแต้มให้กับทีมได้อย่างสำเร็จสำหรับฟอร์มการเล่นของหงส์แดงนั้นถือว่าจัดจ้านไม่ว่าทั้งแนวรุกแล้วก็แนวรับถึงแม้ว่าทีมเค้าจะมีผู้เล่นตัวหลักที่บาดเจ็บเป็นจำนวนมากและถือว่าต้องใช้ตัวสำรองลงเล่นไม่น้อยเลยทีเดียวแต่สำหรับเกมเมื่อคืนผ่านมา
เปิดประตูถล่ม หงส์แดงเปิดประตูบ้านต้อนรับเลสเตอร์ซิตีแบบว่าเอามาเชือดแบบนิ่มค่าบ้าน
กันเลยทีเดียวและเก็บสามแต้มได้อย่างสวยงาม เป็นไปอย่างที่โซต้าได้ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับนักที่จะเจอกับเลสเตอร์ซิตีเพราะว่าเป็นการเปิดบ้านต้อนรับเราจะแพ้ไม่ได้แล้วเราจะไม่ให้ตัวผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บทำให้พิมพ์รู้สึกแย่ไปมากกว่านี้แล้วนัดนี้ถือว่าหงส์แดงทำได้ดีเพราะว่าเก็บสามแต้มให้กับทีมได้อย่างสำเร็จ เรามาดูผลการเล่นของหงส์แดงว่าแต่ละผู้เล่นทำหน้าที่กันหนักแค่ไหนกว่าจะเก็บสามแต้มให้กับทีมได้สำเร็จมันไม่ง่ายเลยสำหรับพวกเขาที่ต้องทำมากถือว่าเป็นงานหนังค่อนข้างหนักพวกเขานึกภาพไม่ออกเลยถ้าเกิดเค้าแพ้เลสเตอร์ซิตีขึ้นมาฉันตาของพวกเขาจะเป็นยังไง เรามาดูบทบาทของนักเตะแต่ละคนของหงส์แดงกันดีกว่าว่าแต่ละคนทำหน้าที่อะไรกันบ้างทำงานหนักมากน้อยเพียงใดมากอ่านต่อกันได้เลย
ลิเวอร์พูล
อลีสซง เบ็คเกอร์ 7
มีแค่เซฟลูกยิงไกลของ ตีเลมันส์ แต่ที่เหลือทั้งเกมก็ไม่ได้เจอบททดสอบยากเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่ยิงตรงตัวรับสบายๆ
เจมส์ มิลเนอร์ 8
อาจจะไม่ได้เติมเกมรุกโหดๆเหมือน เทรนต์ แต่ลูกเปิดของ มิลเนอร์ ก็ยังพอมีประสิทธิภาพทดแทนกันได้ การเตะมุมของเขานำมาซึ่งการทำเข้าประตูตัวเองของ อีแวนส์ และลูกโขกของ ฟีร์มีโน่
โฌแอล มาติป 7
ในวันที่ โจ โกเมซ และ ฟาน ไดค์ ไม่ได้อยู่ในสนาม มาติป ยืนหนึ่งบัญชาการเกมรับ ลูกกลางอากาศเก็บกินเรียบ เกือบทำประตูจากลูกโหม่ง
ฟาบินโญ่ 7
กลับมาทันลงสนามพอดี เป็นนักเตะที่อ่านเกมขาดเหลือเกินไม่แปลกใจที่จะถอยมาเล่นเป็นเซนเตอร์แบ็กได้ แถมยังจ่ายบอลขึ้นหน้าได้ดีอีกต่างหาก
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน 8
เติมเกมรุกสุดมันส์ตลอดทั้งเกมแถมดูไม่มีทีท่าว่าจะหมดพลังด้วย การครอสบอลของเขาสร้างอันตรายได้มากจนกระทั่งมาเปิดให้ โชต้า โหม่งทำประตูช่วงท้ายครึ่งแรก
เคอร์ติส โจนส์ 7 ออกสตาร์ทตัวจริงเป็นนัดที่สองของซีซั่น ได้โอกาสยิงแต่ติดเซฟช่วงต้นเกม ไม่เล่นยาก คุมจังหวะแดนกลางเยี่ยม ป้องกันเกมรับได้ดีโดยมีตัดบอลสำคัญครึ่งหนึ่งในครึ่งแรก
จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม 7
พยายามเล่นง่ายแต่มีประสิทธิภาพทำให้ทีมคุมแดนกลางตลอดทั้งเกม ตัดบอลมากที่สุดในทีม 3 ครั้ง
นาบี เกอิต้า 7
เพรสซิ่งสูง จับบอลดี เลสเตอร์หยุดการพาบอลขึ้นหน้าของเขาไม่ได้ แต่โชคร้ายที่ได้รับบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัว
ดีโอโก้ โชต้า 9
ยังคงฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่อง ยิงติดเซฟ ชไมเคิ่ล ช่วงต้นเกมก่อนมาโหม่งประตูทำให้ยิงในบ้าน 4 นัดติดต่อกันแล้ว การเคลื่อนที่ของเขาเพอร์เฟคไปหมด สร้างโอกาสยิงถึง 3 ครั้ง
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ 7.5
โดนวิจารณ์ฟอร์มการเล่นมาตลอด เกมนี้เขาปรับปรุงขึ้นมาแล้ว มีส่วนร่วมกับเกมรุกมากทีเดียว ต่อบอลสวยๆกับ เกอิต้า และ มาเน่ แต่ทีเด็ดทีขาดยังคงเป็นข้อกังขาหลังใช้โอกาสเปลืองมาก ก่อนโหม่งประตูท้ายเกม
ซาดิโอ มาเน่ 7
แม้จะไม่ได้มีชื่อทำประตูหรือแอสซิสต์ แต่ความคล่องตัวของเขายังทะลวงแนวรับ เลสเตอร์ และเรียกฟาวล์ได้หลายครั้ง เกือบโหม่งประตูจากลูกเตะมุมและมียิงติดเซฟ ชไมเคิ่ล ในครึ่งหลัง
ผู้เล่นสำรองที่ลงสนาม
เนโก วิลเลี่ยมส์ 6 (ลงมาแทน นาบี เกอิต้า น.54)
เล่นอย่างความมั่นใจ มีจังหวะเติมเกมรุกสวยๆบ้าง
ทาคูมิ มินามิโนะ (ลงมาแทน ซาดิโอ มาเน่ น.89) –
ดิว็อค โอริกี้ (ลงมาแทน ดีโอโก้ โชต้า น.89) –